บทวิจารณ์

Alpha 1 เปิดตัวแรงดั่งฟ้าฟาด | รีวิวโดย Mobile01

Article Categories

Banner Image

Mobile01 รอไม่ไหวอยากจะทดลองใช้ Alpha 1 รุ่นใหม่ล่าสุดและทดสอบประสิทธิภาพที่ได้รับการพัฒนาแล้วมาให้ทุกคนได้อ่านรีวิวกัน ทีมงานลองเล่นฟีเจอร์ใหม่ เช่น ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องและเซนเซอร์ซ้อนแบบใหม่ และเปรียบเทียบกับกล้อง Sony รุ่นอื่นอย่างละเอียด เพื่อให้เห็นว่าประสิทธิภาพของเทคโนโลยีใหม่ใน Alpha 1 เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยม อ่านต่อกันเลยเพื่อดูว่า Alpha 1 ตอบโจทย์เราหรือไม่ 

ความประทับใจแรก  

ทีม Mobile01 เชื่อสนิทใจเลยว่า Alpha 1 สามารถครองโลกกีฬาและสื่อสารมวลชนได้แน่นอน ทันทีที่ทีมงานเห็นความเร็วในการเปลี่ยนการถ่ายภาพต่อเนื่องจาก 24MP, 20fps เป็น 50MP, 30 fps โดยไม่มี blackout  และไม่ถูกครอบรูป ทีมงาน Mobile01 ยังทึ่งกับการบันทึกวิดิโอ 8K ซึ่งถือว่าเป็น “สเปคทรงพลังชั้นสูงที่สร้างความฮือฮาให้วงการถ่ายภาพ”  

การเพิ่มเซ็นเซอร์แบบเรียงซ้อนและระบบโปรเซสเซอร์ประมวลผลคู่ BIONZ XR ก็ทำให้ว้าวได้เพราะมีความสามารถในการสร้างไฟล์รูปขนาดใหญ่ด้วยความเร็วสูง Alpha 1 มีโปรเซสเซอร์คู่ BIONZ XR เหมือนกับ Alpha 7S III แต่ใน Alpha 1 ได้รับการปรับแต่งพัฒนาให้ละเอียดเป็นพิเศษ โปรเซสเซอร์คู่ที่พัฒนาประสิทธิภาพให้ดีขึ้นนี้ทำให้กล้องให้ความเร็วในการอ่าน CMOS สูงพิเศษ หน่วยความจำขนาดใหญ่ และประสิทธิภาพการประมวลผลที่รวดเร็วเป็นพิเศษ ในขณะเดียวกัน เซ็นเซอร์แบบเรียงซ้อนของ Alpha 1 มีโครงสร้างเดียวกับ Alpha 9, Alpha 9 II และ RX100 VII ทีม Mobile01 ยืนยันว่าฟีเจอร์ทั้งสองนี้เป็นสิ่งที่ทำให้กล้องมีประสิทธิภาพสูงและสเปคที่แข็งแกร่งขั้นสุดนี้นั้นหาได้ยากจากผู้ผลิตรายอื่น  

Alpha 1 ยังเพิ่มโฟกัสอัตโนมัติจับดวงตานกให้สำหรับช่างภาพนกและผู้สร้างคอนเทนท์อื่น ๆ ที่ต้องการ "ความละเอียดสูงพิเศษและความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงเป็นพิเศษ" ทำให้ Alpha 1 อัพเลเวลยิ่งขึ้นไปอีก 

รีวิวนี้ได้ทดสอบฟีเจอร์ใหม่ของกล้องในทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่ช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ จำนวนพอร์ตที่เพิ่มขึ้น ตัวเชื่อมต่อแฟลชซิงโครไนซ์ ประสิทธิภาพ ISO และแม้กระทั่งรายละเอียดที่ซับซ้อนที่สุดที่คนเล่นกล้องจะต้องชอบใจอย่างแน่นอน Mobile01 ยังเช็คเรื่องความเร็วการถ่ายโอน USB ของ Alpha 1 ซึ่งเรียกว่าเป็น "ตัวเดิมพันที่ดีที่สุด" ของช่างภาพสำหรับการเชื่อมต่อที่เร็วที่สุด 

ตัวกล้อง 

นอกจากจอ LCD ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อความสะดวกสบายในการดูรูปแล้ว Alpha 1 ยังมีพอร์ตมากที่สุดในบรรดากล้องมิเรอร์เลสของ Sony พอร์ตประกอบด้วยช่องเสียบสาย LAN ที่รองรับ 1000BASE-T ขั้วต่อแฟลชซิงโครไนซ์ และพอร์ต Micro USB นอกจากนี้ยังมีแจ็คไมโครโฟน แจ็คเสียง 3.5 มม. พอร์ต HDMI Type-A และ USB 3.2 ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลที่น่าทึ่งถึง 1212MB ต่อวินาที 

ช่องเสียบเมมโมรี่การ์ดคู่รองรับการ์ด UHS-II SDXC การ์ด CFexpress Type A รุ่นใหม่ เหมือนกับ Alpha 7S III 

รีวิวนี้ยังเน้นที่เซ็นเซอร์อินฟราเรดไวท์บาลานซ์ที่ด้านหน้าของกล้อง ช่วยให้อ่านไวต์บาลานซ์ได้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยส่งข้อมูลไปยังเซ็นเซอร์ CMOS โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านเลนส์ 

ชัตเตอร์ของ Alpha 1 ก็ดีขึ้นเช่นกัน อย่างแรกคือออกแบบให้มีม่านชัตเตอร์ที่จะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อปิดกล้อง เพื่อลดโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปเมื่อถอดเลนส์ออก นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่เรียกว่า 'ชัตเตอร์ขับเคลื่อนคู่' ซึ่งมาพร้อมกับระบบควบคุมสปริงแบบดั้งเดิมและไดรฟ์แม่เหล็กไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเร่งความเร็วของม่านชัตเตอร์ หล่อลื่นชัตเตอร์เวลาทำงาน และทำให้ใช้ความเร็วได้อย่างดีที่สุด ซึ่งช่วยให้กลไกชัตเตอร์ซิงค์กับแสงแฟลชที่ความเร็ว 1/400 วินาที 

Mobile01 ยังรีวิวตำแหน่งจัดวางปุ่มของ Alpha 1 ว่า “ความลึกของแต่ละปุ่มกำหนดไว้อย่างพอดีและทิศทางของจอยสติ๊กก็เฉียบขาด เราพูดได้ว่านี่เป็นระบบการจัดวางปุ่มที่ทำออกมาค่อนข้างดี” 

Alpha 1 สามารถติดตั้งได้ด้วยกริ๊ปแนวตั้ง รุ่น VG-C4EM ซึ่งใช้ได้กับของรุ่น Alpha ก่อนหน้านี้ 

mobile01-53c50020cea61822277893f (1).jpg
่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ Quad-XGA 9.44 ล้านจุด และปุ่มสีแดงสำหรับกดถ่ายวิดีโอโดยเฉพาะ
mobile01-4a2fd2b55360797c8778a2c.jpg
พอร์ตเชื่อมต่อที่หลากหลาย ได้แก่ HDMI Type-A, USB Type-C, LAN ฯลฯ
mobile01-dcc6327d94878fdb7e68a3e14f562ba8[2].jpg
ชัตเตอร์ปิดเมื่อปิดกล้องเพื่อป้องกันฝุ่นเข้าเซ็นเซอร์ระหว่างเปลี่ยนเลนส์
mobile01-2c1a5ac7a694a1a1572754ee7c49ab80.jpg
แป้นหมุนเปลี่ยนแสดงไดรฟ์/ปรับโฟกัส
mobile01-65b0051d28ad57f68febda8.jpg
ช่องใส่การ์ดที่รองรับ CFexpress Type-A สองช่อง

ฟังก์ชั่นเด่น 

ชัตเตอร์และเซ็นเซอร์ภาพซ้อน 

นอกเหนือจากความสามารถในการโฟกัสที่ได้รับการพัฒนาแล้ว ความก้าวหน้าขั้นสูงสุดของ Alpha 1 อยู่ที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันของเซ็นเซอร์ภาพแบบซ้อนและชัตเตอร์ รีวิวนี้อธิบายประเด็นสำคัญว่า Alpha 1 ทำลายขีดจำกัดความเร็วชัตเตอร์กลไกรุ่นก่อนสำหรับการซิงโครไนซ์แฟลชกับชัตเตอร์แบบขับเคลื่อนคู่รุ่นใหม่ซึ่งใช้สปริงและไดรฟ์แม่เหล็กไฟฟ้าได้อย่างไร ซึ่งช่วยให้ความเร็วในการซิงโครไนซ์แฟลชสูงถึง 1/400 วินาที หมายความว่าสามารถถ่ายภาพด้วยชัตเตอร์ 2/3 EV ที่ต่ำกว่าเดิม ความเร็วชัตเตอร์นี้ทำให้เซ็นเซอร์ CMOS มีความไวต่อแสงมากขึ้น ลดเวลาการรับแสงของ CMOS ทั้งหมด และลดแสงโดยรอบลง ทำให้ผู้ใช้มีอิสระในการสร้างสรรค์เพิ่มขึ้น การอ่านค่า CMOS ที่รวดเร็ว "เหนือกว่าเซนเซอร์ CMOS ทั่วไปในอดีต" และทีม Mobile01 ได้พิจารณาแล้วว่าช่างภาพสามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์นี้เพื่อ "ควบคุมแสงโดยรอบและเพิ่มอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานมากขึ้น" 

Mobile01 รับรองว่าชัตเตอร์แบบขับเคลื่อนคู่จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานตามปกติของผู้ใช้เลย เวลาชัตเตอร์กลไกขั้นต่ำยังคงเป็น 1/8000 วินาที 

“ตราบใดที่ความเร็วน้อยกว่าระดับนี้ ชัตเตอร์ก็จะปรากฏขึ้นพร้อมกับที่ม่านชัตเตอร์อันแรกและอันที่สองตกลงมา เนื่องจากขีดจำกัดความเร็วของโครงสร้างทางกลไม่สามารถทำให้ CMOS ทั้งหมดเปิดเป็นเวลา 1/8000secs ต่อวินาทีในเวลาเดียวกัน ดังนั้นจึงทำได้ลักษณะที่คล้ายกับการสแกนจากที่ม่านชัตเตอร์ด้านหน้าและด้านหลังตกลงมา อย่างไรก็ตาม ด้วยวิธีนี้ CMOS ทั้งหมดจะไม่ถูกแสงแฟลช และภาพจะถูกบังด้วยม่านชัตเตอร์ เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมความเร็วการซิงโครไนซ์ของม่านชัตเตอร์ฟูลเฟรมจึงถูกจำกัดไว้ที่ 1/250 ถึง 1/320 วินาที” Mobile01 อธิบายลงรายละเอียดเทคนิคการทำงานของชัตเตอร์ 

ชัตเตอร์แบบขับเคลื่อนคู่ของ Alpha 1 มีสร้างมาเพื่อทำลายขีดจำกัดนี้ “วิศวกรของ Sony ได้ใช้ไดรฟ์แม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อทำให้ชัตเตอร์ตกลงเร็วขึ้น เพื่อให้กล้องสามารถลดเวลาการรับแสงของเซ็นเซอร์ CMOS ทั้งหมดลงเหลือ 1/400secs ของหนึ่งวินาทีแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน”  

mobile01-a805628bbce2e8fc79e122d5b6b50f03.jpg
Alpha 1 | FE 24-70mm F2.8 | 70mm | 1/320 sec | F8.0 | ISO 100
mobile01-67eb17fd04ca71b0c93b8d15dc00fa4a.jpeg
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 140mm | 1/320 sec | F11.0 | ISO 100
mobile01-4b50572a7da2a2a2cc49158b4478afa7(resized).png
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 87mm | 1/200 sec | F7.1 | ISO 200
mobile01-a94ae8c45ab06acfcb87647d8918df3c(resized).png
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 74mm | 1/200 sec | F7.1 | ISO 400

"การลดความเร็วการซิงโครไนซ์ชัตเตอร์ให้น้อยลงเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับช่างภาพ แม้ว่า 2/3 EV จะไม่มากนัก แต่การที่ผู้ผลิตเริ่มคำนึงถึงสิ่งนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ" Mobile01 รีวิว 

การที่ Alpha 1 มีชัตเตอร์กลไก ทำให้ไม่มีเอฟเฟกต์ชัตเตอร์หมุนที่มองเห็นได้ ซึ่งมักจะปรากฏเมื่อกล้องสั่นระหว่างการถ่ายภาพที่ไม่เสถียร เช่น ในการถ่ายภาพโดยถือกล้องด้วยมือหรือถ่ายยานพาหนะ “ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย แต่เอฟเฟกต์ชัตเตอร์หมุนนั้นน้อยมาก ม่านชัตเตอร์แบบกลไกมีเวลาตกที่สั้นมาก สั้นมากจนวัตถุต้องเคลื่อนที่เร็วมากเพื่อให้รู้สึกถึงความแตกต่างของเวลาระหว่างแถวของเซ็นเซอร์ CMOS ด้านบนและด้านล่างอันเนื่องมาจากชัตเตอร์กลไก” 

เซ็นเซอร์ภาพ CMOS ของ Alpha 1 ทำงานร่วมกับระบบประมวลผล BIONZ XR เพื่อลดเอฟเฟกต์ชัตเตอร์หมุนได้โดย 1. พื้นที่ประมวลผลสัญญาณที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่กว่ามาก ซึ่งประมวลผลสัญญาณได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น 2. ฟิลเตอร์สีที่มีพื้นที่ใช้สอยกว้างกว่า และ 3. เซ็นเซอร์ภาพที่มีแคชเป็นของตัวเอง ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งข้อมูลจำนวนมากไปยัง CMOS ได้ก่อนที่จะถึงโปรเซสเซอร์ เลเยอร์เหล่านี้ช่วยลดความแตกต่างของเวลาระหว่างการเดินทางของ CMOS จากบนลงล่าง ทำให้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์สามารถซิงโครไนซ์กับแฟลชได้ที่ความเร็ว 1/200 วินาที “เราเชื่อว่าคุณสมบัติของ Alpha 1 ที่มีค่าที่สุดของกล้องนี้ไม่ใช่แค่ความสามารถในการโฟกัสหรือ 50MP แต่เป็นการพัฒนาที่ก้าวล้ำของการทำงานร่วมกันของเซ็นเซอร์แบบซ้อนและชัตเตอร์” Mobile01 กล่าวในรีวิว 

ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่อง

โปรเซสเซอร์คู่ BIONZ XR อันทรงพลังของ Alpha 1 ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ 10 เฟรมต่อวินาทีโดยใช้ชัตเตอร์กลไก และ 30 เฟรมต่อวินาทีโดยใช้ชัตเตอร์กลไก สำหรับไฟล์ X.FINE JPEG ผู้ใช้สามารถถ่ายได้สูงสุด 182 เฟรม รวมกันที่ประมาณ 6 วินาที หากมีพื้นที่เก็บข้อมูลจำกัด คุณภาพปกติสามารถบันทึกภาพได้สูงสุด 400 ภาพ โดยกดชัตเตอร์ต่อเนื่อง 13 วินาที สำหรับไฟล์ RAW compressed กล้องรุ่นนี้สามารถถ่ายภาพได้มากถึง 238 ภาพ และบันทึกวิดิโอได้มากถึง 82 ช็อต  

94 shots, 1.34GB 

28 shots, 418 MB 

34 shots, 508 MB 

ทีมงานของ Mobile01 รู้สึกทึ่งกับฟีเจอร์นี้มาก กล่าวว่า “ความเร็ว 30fps จริง ๆ แล้วเทียบเท่ากับวิดีโอ ดูความเรียบเนียนสุดว้าวนี่สิ!” 

ออโต้โฟกัสจับดวงตานก 

Mobile01 ยังใช้เวลาลงลึกทดสอบการเพิ่มความสามารถในการโฟกัสสำหรับตานกในฟีเจอร์ Real-time Eye AF และอธิบายอัตราการจดจำดวงตาของนกที่ได้ผลสำเร็จสูง เราเดินทางไปที่สวนเชิงนิเวศและพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อรีวิวทดสอบฟีเจอร์ใหม่และถ่ายนกกระทุง นกแก้ว นกปากช้อนหน้าดำ และนกป่าอื่น ๆ ฟีเจอร์นี้ยังตรวจจับดวงตามนุษย์ ซึ่งยังคงเป็นจุดแข็งที่เด่นสุด และดวงตาของสัตว์อื่น ๆ ดังนั้นทีมจึงลองใช้ถ่ายอัลปาก้าด้วย Mobile01 ชอบฟีเจอร์Real-time Eye AF มากโดยกล่าวว่าคุณสมบัตินี้มี "การติดตามผลสูงสุดและความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุด" 

ทีมงานของ Sony บอกว่าการโฟกัสดวงตานกนั้นไม่ได้ 100% เนื่องจากมีบางสถานการณ์ที่ทำให้ไม่สามารถจดจำตานกได้ทั้งหมด หนึ่งในสถานการณ์ที่ดูไม่น่าเกิดขึ้นจริงแต่ก็มีเหตุผลคือ เมื่อตาของนกทั้งตาซ้ายและตาขวาอยู่ในเฟรมเดียวกัน การโฟกัสดวงตานกจะถูกปิดใช้งาน และเราไม่สามารถเลือกระหว่างตาซ้ายและตาขวาได้ นี่เป็นเพราะว่านกมีขอบเขตการมองเห็นที่กว้างกว่ามนุษย์ และโดยปกติเราจะเห็นนกป่าใช้ตาข้างเดียวหันเข้าหาเรา ดังนั้นกล้องจึงออกแบบมาให้โฟกัสที่ตาข้างเดียวเท่านั้น” Mobile01 กล่าว 

รีวิวยังระบุด้วยว่าฟีเจอร์นี้มีไว้สำหรับ 'ตานก' ไม่ใช่ 'หน้านก' นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าอาจมีบางสถานการณ์ที่ออโต้โฟกัสดวงตานกจะไม่ทำงานเลย เช่น ในกรณีที่มองไม่เห็นตานกในเฟรมหรือเมื่อมีนกจำนวนมากเกินไปแล้วกล้องไม่สามารถโฟกัสที่ตาข้างเดียวได้ ในกรณีเช่นนี้ Alpha 1 จะเปลี่ยนไปใช้การตรวจจับโฟกัส 4D แทนทำให้ผู้ใช้ยังคงได้โฟกัสแบบที่ต้องการ 

“อย่างไรก็ตาม ในทางปฏิบัติ เราสามารถเปิดโฟกัสดวงตานกหลังจากถ่ายรูปนกแล้วได้ กล้องจะทำการตรวจจับโฟกัส 4D เองเมื่อตรวจไม่พบตานก” Mobile01 รีวิว “ท้ายที่สุดแล้ว การจดจำใบหน้า/ดวงตายังคงเป็นจุดเด่นของระบบโฟกัสนี้ การล็อคโฟกัสมีอัตราการติดตามที่ได้ผลสูงสุดและความน่าเชื่อถือที่ดีที่สุด”

แกลเลอรี่

mobile01-48441d95741cba8b744c458.jpg
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 200mm | 1/500 sec | F2.8 | ISO 500
mobile01-3d518d80043bad6c0c8a182.jpg
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 200mm | 1/640 sec | F2.8 | ISO 1600
Alpha 1_flamingo (1).jpg
Alpha 1 | FE 70-200mm F2.8 OSS | 70mm | 1/250 sec | F2.8 | ISO 250

ประสิทธิภาพ ISO  

Mobile01 รีวิวเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Alpha 1 และ Alpha 7R IV ที่ระดับ ISO ต่าง ๆ ตั้งข้อสังเกตว่าทั้งสองรุ่นมี CMOS ที่ได้รับแสงด้านหลังด้วยคุณภาพของภาพที่ใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ แม้พิกเซลจะมีความแตกต่างกัน แต่ขนาดภาพถ่ายจากกล้องทั้งสองตัวก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก 

หลังจากลองถ่ายไปไม่กี่ช็อตก็สังเกตว่าความแตกต่างได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่ ISO 12800 แม้ว่ารายละเอียดจะใกล้เคียงกัน แต่ Alpha 7R IV มีจุดรบกวนมากกว่า Alpha 1 มาก ซึ่งหมายความว่าการจัดการสัญญาณรบกวน ISO สูง “ยอดเยี่ยมจริง ๆ” 

Alpha 7S III เด่นด้านประสิทธิภาพ ISO สูงสามารถไปถึง ISO 409 และ ISO 600 ซึ่งสูงมากได้ จากนั้นจึงทดสอบ Alpha 7S III เพื่อเปรียบเทียบกับ Alpha 1 รุ่นหลักในแง่ของสัญญาณรบกวนวิดีโอ ISO สูง 

“สิ่งหนึ่งที่อยากให้ดูเป็นพิเศษคือ ISO 3200 ของ Alpha 1 นั้นเทียบเท่ากับประสิทธิภาพของ Alpha 7S III ดีกว่า Alpha 7S III ที่ ISO 6400 ด้วยซ้ำไป แต่เรารู้ดีว่าเมื่อ Alpha 7S III ถ่ายภาพด้วย S-Log3, ISO 12800 ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนชัด เกินกว่า ISO 12800 แล้ว Alpha 7S III ยังคงเป็นผู้ชนะ โดยมี Alpha 1 ตามหลังมาติด ๆ  ส่วน Alpha 7R IV ไม่เคยเทียบได้เลย” Mobile01 กล่าว 

การจัดการ ISO สูงนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนพิกเซลและความสามารถของโปรเซสเซอร์ของกล้อง เนื่องจาก Alpha 7S III ออกแบบมาให้มีพิกเซลต่อหน่วยพื้นที่มากขึ้น และมีจำนวนพิกเซลที่น้อยกว่า จึงครองชัยชนะในหมวดหมู่ ISO สูง อย่างไรก็ตาม 50 ล้านพิกเซลของ Alpha 1 ยังคงทำงานได้ประสิทธิภาพที่คล้ายกับ Alpha 7S III ซึ่งผู้รีวิวก็ต้องยอมรับว่าดีจริง ๆ 

ความละเอียด 50 ถึง 200 เมกะพิกเซล 

Alpha 1 มีโหมดการถ่ายภาพหลายช็อตแบบเปลี่ยนพิกเซล ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพสี่ภาพและรวมภาพเข้าด้วยกันเพื่อสร้างภาพเดียวที่มีคุณภาพสูงพิเศษที่ 50.1MP หรือรวม 16 เฟรมเป็นภาพเดียวเพื่อสร้างภาพถ่าย 199MP ทั้งหมดนี้ทำได้ด้วยซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ Imaging Edge ของ Sony  

จำนวนช็อต 

 

จำนวนพิกเซล 

 

ความละเอียด 

ขนาดไฟล์ 

 

1 ช็อต 

49.76 ล้าน 

8,640 x 5,760 

 

38.3MB 

 

4 ช็อตรวมเป็น 1 ภาพ 

 

 

51.6MB 

 

16 ช็อตรวมเป็น 1 ภาพ 

 

199 ล้าน 

 

17,280 x 11,520 

 

216.1MB 

 

แม้ว่าชัตเตอร์ของการเลื่อนพิกเซลแต่ละครั้งจะต้องใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ใช้สามารถสั่งใช้แฟลชได้อย่างง่ายดายในแต่ละช็อต โดย Alpha 1 มีความเร็วในการซิงโครไนซ์แฟลช 1/200 วินาที ด้วยวิธีนี้ ช่างภาพยังคงถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงพิเศษโดยใช้งานกล้องตามปกติโดยไม่ต้องคิดหาวิธีสั่งใช้แฟลชแบบใหม่ ฟีเจอร์นี้เหมาะที่สุดสำหรับช่างภาพที่ต้องการผลงานภาพขนาดใหญ่ขึ้น  

วิดีโอ 8K 

ความละเอียดของวิดีโอมาตรฐาน 8K คือ 7680 x 4320 4:2:0 10 บิต โดยมีการประมวลผล 33.17 ล้านพิกเซลที่ 30fps อย่างไรก็ตาม รูปแบบของวิดีโอ 8K ของ Alpha 1 เป็น H.265 บังคับสำหรับ XAVCS HS Mobile01 แนะนำให้ผู้ใช้อัพเกรดคอมพิวเตอร์หากจะใช้งานกับการวิดิโอคุณภาพดังกล่าว 

“นอกจากนี้ยังเป็นเพราะรูปแบบ H.265 ที่สตรีมของวิดีโอ 8K คือ 400Mbps ซึ่งต่ำกว่าสตรีมสูงสุดของ Alpha 1 หากต้องการความเร็วสูงสุดที่ 600Mbps ให้ใช้ตัวเลือก 4K XAVCS-I 4: 2: 2 10bit  Alpha 1 ยังสามารถส่งออกวิดีโอ RAW ที่ความละเอียด 4332 x 2448 และอัตราสูงสุด 16 bit ได้แต่ทาง HDMI เท่านั้น” Mobile01 รีวิว 

การทดสอบความร้อน 

ขั้นสุดท้าย  ทีม Mobile01 นำ Alpha 1 ไปทดสอบอุณหภูมิกล้องโดยใช้กล้องในพื้นที่ปิดที่อุณหภูมิห้อง 28-30 องศาโดยไม่มีลม เพื่อลองใช้ฟีเจอร์ป้องกัน overheating 

เปิดโหมดการป้องกัน overheat และวัดอุณหภูมิ 15 นาทีหลังจากการเครื่องบังคับชัตดาวน์ (Mobile01 ไม่สามารถวัดตอนเครื่องกำลังปิดได้) 

ปิดโหมดการป้องกัน Overheat และได้อุณหภูมิเกิดขึ้นหลังจากอัดวิดิโอนาน 2:28 นาที อุณหภูมิสูงสุดจะอยู่ที่บริเวณด้านหลังเซ็นเซอร์  

ตารางคำเตือน Overheat และเวลาบังคับชัตดาวน์ 

8K 30P อุณหภูมิ 30°C 

คำเตือน Overheat 

เวลาบังคับชัตดาวน์ 

เปิดโหมดป้องกัน Overheat 

17:30  

24:25 

ปิดโหมดการป้องกัน Overheat 

ไม่ปรากฏหลัง 2:28:54 

ทีมพยายามบันทึกวิดีโอ 8K แบบเปิดโหมดป้องกัน Overheat หลังจากอัดวิดิโอไป 17 นาที 30 วินาที กล้องขึ้นคำเตือนทันที จากนั้นจึงบังคับชัตดาวน์ปิดกล้องหลังจาก 24 นาที 25 วินาที หลังจากปิดเครื่องไป 15 นาที อุณหภูมิก็สูงถึง 39.7°C 

จากนั้นทีมงานก็บันทึกวิดีโอ 8K อีกอัน แต่คราวนี้ปิดโหมดป้องกัน Overheat กล้องใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงกว่าจะขึ้นคำเตือนความร้อนสูงเกินไป และไม่บังคับชัตดาวน์ปิดเครื่อง หลังจากที่ทีมงานกดปิดเครื่องเอง อุณหภูมิพุ่งสูงถึง 58.7°C 

“คิดว่าถ้าเราปิดโหมดป้องกันOverheat เราน่าจะสามารถใช้กล้องตามความต้องการในการถ่ายภาพส่วนใหญ่ของเราได้” Mobile01 กล่าว 

รีวิวโดยสรุป 

โดยรวมแล้ว ทีม Mobile01 ได้เน้นย้ำและชื่นชมความสามารถที่โดดเด่นมากมายของ Alpha 1 

“ส่วนตัวแล้ว การถ่ายภาพต่อเนื่อง 50.1MP 30fps เป็นเพียงหนึ่งในความพิเศษมากมายของ Alpha 1 แค่ดูที่สเปคอย่างเดียวโดยที่ไม่ดูบริบทการใช้งานไม่สามารถตัดสินได้เด็ดขาดได้ อย่างไรก็ตาม หากเราต้องการเริ่มตั้งแต่ต้น เราต้องย้อนไปดูที่เซ็นเซอร์ของ Alpha 1 และโปรเซสเซอร์คู่ Bionz XR แบบพิเศษในกล้อง” ทีมงานกล่าว 

“โปรเซสเซอร์คู่ Bionz XR ที่ออกแบบขึ้นมาเฉพาะสำหรับ Alpha 1 จะต้องสามารถสร้างไฟล์รูปขนาดใหญ่ที่ความเร็วสูงด้วยเซ็นเซอร์ CMOS 50.1MP นอกจากนี้ยังทำการคำนวณโฟกัส การลดสัญญาณรบกวน การจดจำดวงตามนุษย์หรือดวงตานก การประมวลผลภาพ 8K และอีกมากมาย” ทีม Mobile01 เสริม 

Mobile01 ได้ข้อสรุปว่าหน่วยความจำแคชรวมของเซ็นเซอร์แบบซ้อนและวงจรการประมวลผลขนาดใหญ่สามารถทำให้กล้อง Alpha 1 ทำงานมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 

1. ความเร็วในการอ่านข้อมูลที่รวดเร็วเป็นพิเศษที่ 1/200 วินาที 
2. ความเร็วในการซิงโครไนซ์แฟลชชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ 1/200 วินาที 
3. เอฟเฟกต์ชัตเตอร์หมุนต่ำพิเศษ
4. การตรวจจับโฟกัส/การรับแสง 120 ครั้งต่อวินาที  
5. ความสามารถในการบันทึกวิดิโอ 30fps
6.ความสามารถในการถ่ายภาพต่อเนื่องโดยไม่ blackout 

รีวิวนี้ภูมิใจที่จะแชร์ว่าคุณสมบัติหลักเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Alpha 1 เป็นกล้องที่มีเอกลักษณ์และทรงพลังอย่างที่เป็น 

“ไม่มีทางที่จะพูดถึง Alpha 1 ได้โดยไม่พูดถึงเซ็นเซอร์ CMOS” ทีมรีวิวกล่าว 

การคาดการณ์ของทีม Mobile01 คือจะมี "ในอนาคตจะมีช่างภาพจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่หันมาใช้ Alpha 1 ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพวารสารศาสตร์ นักสารคดีเชิงนิเวศน์ ช่างภาพสายประกวด หรือแม้แต่ช่างาพโฆษณาที่ทำงานในสตูดิโอ" ซึ่งทุกคนต่างตั้งตารอดูผลงานที่ดีขึ้นของตัวเองเมื่อใช้ Alpha 1 ถ่ายภาพ 

“รู้สึกได้ว่า Sony ยังคงมุ่งมั่นในการผลิตกล้องและวิศวกรของ Sony ก็ยังคงมุ่งมั่นค้นหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น ขณะนี้กำลังพัฒนาเซ็นเซอร์ที่ประสิทธิภาพแข็งแกร่งขึ้นและทำลายข้อจำกัดของชัตเตอร์ทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และแบบกลไก แต่ก็ยังใส่ใจกับรายละเอียดที่ช่างภาพจะมองเห็น การพัฒนาเหล่านี้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ทำให้ทีมงานเราประทับใจมาก และหวังว่า Sony จะพัฒนากล้องที่ดียิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต” Mobile01 กล่าวสรุป 

 

อ่านรีวิวต้นฉบับของ Mobile01 เกี่ยวกับ Alpha 1 ได้ที่นี่ บทรีวิวต้นฉบับเป็นภาษาจีนตัวเต็ม และแปลเป็นภาษไทยเพื่อจุดประสงค์ของบทความนี้ 

Article Theme

Kami ingin meminta akses ke Geolokasi Anda untuk memberi Anda pengalaman yang disesuaikan. Perlu diketahui bahwa Anda dapat menarik persetujuan Anda kapan saja melalui pengaturan browser Anda.