แนะนำ

เสกภาพและวิดีโออาหารจานสวย

by โดย Jaegen Tan

Article Categories

A7C00096YAKITORI1903x941

Jaegen Tanจับงานช่างภาพอาหารในดินแดนพหุวัฒนธรรมอย่างสิงคโปร์มาตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา ด้วยความหลงใหลในอาหารและการเดินทาง เขาพร้อมที่จะลิ้มรสอาหารท้องถิ่นอยู่เสมอ Jaegen ตัดสินใจทดแทนการเดินทางที่หายไปเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ด้วยการสร้างผลงานภาพถ่ายและวิดีโอเพื่อแบ่งปันประสบการณ์ของตน ซึ่งเป็นการกรุยเส้นทางบทใหม่ในสายภาพถ่ายและวิดีโออาหาร ลองรับฟังประสบการณ์ของเขา และคุณก็อาจจะทำให้ภาพถ่ายและวิดีโออาหารดูน่าอร่อยได้แบบนี้เช่นกัน

Jaegen Tan ช่างภาพและฟิล์มเมคเกอร์สายอาหาร

โปรเจคท์คอลแลปส์Juicy Cuts   

มิตรภาพและความสร้างสรรค์เป็นตัวจุดประกายโปรเจคท์ Juicy Cuts ในตอนแรกโปรเจคท์ดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง Jaegen กับเชฟ Ryan Foo เพื่อนสนิทของเขา พอมีทั้งเชฟและช่างภาพอาหาร โปรเจคท์นั้นก็เกิดขึ้น โดยเชฟ Ryan เป็นคนสร้างสรรค์อาหารหน้าตาน่าสนใจ ส่วน Jaegen เป็นผู้บันทึกภาพโดย Jaegen อธิบายว่า “การคอลแลปส์เกิดขึ้นได้ด้วยการแลกเปลี่ยนทิปส์และคอนเทนต์ระหว่างกัน Ryan จะทำอาหาร แล้วผมก็จะสร้างเรื่องราวและคอนเทนต์ให้ เวลาเราวางแผนทำอาหารและถ่ายทำ เรานึกถึงความท้าทายหรือองค์ประกอบที่เราสามารถใส่เข้ามาในภาพได้ เพื่อทำให้อาหารเหล่านั้นน่ากินและน่าสนใจสำหรับผู้ชมมากขึ้น” 

Ryan Fooเชฟและฟู้ดสไตลิสต์

การทำงานร่วมกับคนที่มีประสบการณ์ด้านฟู้ดสไตลิ่งเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ เชฟ Ryan เข้าใจอาหาร และรู้มุมที่ดีที่สุดในการบันทึกภาพอาหาร ทำให้กระบวนการต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น ในฐานะที่เป็นคนดูแลเรื่องราวและคอนเทนต์Jaegen กำหนดวิสัยทัศน์ของเขาสำหรับ Juicy Cuts ให้สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของเชฟ Ryan ด้วยวิธีนี้ Jaegen สามารถบันทึกภาพอาหารจากวิสัยทัศน์ของเขาได้สามถึงห้าอย่าง แทนที่จะเป็นทีละจานๆ ถ้าหากเขาต้องทำคนเดียว 

กดชัตเตอร์   

การรู้ว่าสีและองค์ประกอบที่โดดเด่นของการถ่ายภาพนั้นคืออะไรมีความสำคัญอย่างมากต่อโปรเจ็คท์อย่าง Juicy Cuts หัวใจหลักก็คือการได้ภาพถ่ายที่ดูเย้ายวนจนกระตุ้นความอยากอาหารของผู้ชมได้ เครื่องมือทางภาพเช่น แผ่นสี ถูกนำมาใช้เพื่อกำหนดแนวทางให้ช่างภาพและสไตลิสต์สร้างสมดุลและความแตกต่างในการจัดวางองค์ประกอบ ซึ่งสิ่งที่ได้คือภาพถ่ายอาหารที่โดดเด่น นี่เป็นเครื่องกำหนดแนวทางให้แก่การถ่ายภาพ และช่วยในการเลือกอุปกรณ์ประกอบทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เพื่อให้อาหารโดดเด่นออกมา

Jaegenมักถ่ายภาพโดยใช้การจัดแสงแบบธรรมชาติ และการถ่ายภาพกับเชฟ Ryan นั้นก็ไม่มีข้อยกเว้น การถ่ายภาพใกล้กับหน้าต่างหรือในพื้นที่ข้างนอกยกระดับภาพไปสู่อีกระดับใหม่ และทำให้ภาพนั้นๆ มีความเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น

“การเข้าใจทิศทางที่มาของแสงหลักนั้นเป็นสิ่งที่ผมมองหาเวลาถ่ายภาพอาหาร ทิศทางของแสงหลักจะกำหนดว่าภาพนี้ย้อนแสงหรือเป็นแสงเข้ามาจากด้านหน้า หากต้องการปรับผลของแสง ก็จะใช้แสงจากภายนอกในที่มืด”Jaegen กล่าว

อย่างไรก็ตาม ถ้าทั้งสีและแสงยังไม่พอสำหรับการถ่ายภาพ สิ่งสำคัญลำดับต่อไปก็คืออุปกรณ์เสริมที่ช่วยสร้างมุมมองที่น่าสนใจให้แก่ภาพได้ เมื่อประกอบเข้ากับภาพถ่ายที่มีการเคลื่อนไหวก็จะช่วยให้ได้ภาพที่เข้าถึงได้และน่ารับประทานไปพร้อมๆ กัน เช่น บาร์บีคิวที่เหมือนกับภาพถ่ายและวิดีโอของสตูว์แบบยากิ ได้รวมองค์ประกอบของไฟและวัตถุดิบเหนือเตาย่างเข้าไว้ด้วยกัน ตัวเลือกอื่นในการถ่ายภาพอาจเป็นการปรุงเนื้อเหนือเตาย่าง หรือการจับภาพการโรยพริกไทยและเกลือในรูปแบบสโลว์โมชั่น อีกตัวอย่างหนึ่งของการทำให้ภาพมีความเคลื่อนไหวมากขึ้นด้วยการใช้อุปกรณ์เสริม คือการให้มีคนยืนโบกไฟอยู่ที่เตาย่าง หรืออาจจะเป็นอะไรที่ง่ายๆ เช่น เอาขวดพริกไทยดำไปวางข้างอาหารก็ได้ องค์ประกอบที่เรียบง่ายเหล่านี้ช่วยยกระดับช่วงเวลานั้นๆ ในเวลาที่ผู้คนต่างแสวงหาประสบการณ์ทางภาพและเป็นตัวสร้างสรรค์เหตุการณ์ที่แท้จริงและเปี่ยมด้วยชีวิต

Alpha 7C | FE 24-70mm F2.8 GM | 60mm | 1/1000sec | F1.8 | ISO 1000

สไตล์เฉพาะตัวของ Jaegen คือการทำให้สิ่งที่ถ่ายทอดออกมานั้นเรียบง่าย เขากล่าวว่า“การถ่ายภาพแบบเรียบง่าย โดยมีอาหารเป็นจุดสนใจหลักนั้นไม่จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมเยอะเกินไป และนี่ก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ของภาพที่ดีกว่า ถ้าใส่องค์ประกอบเข้ามามากไป ผู้รับชมงานก็จะเขวออกจากจุดสนใจหลัก ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเสียความสนใจไป”

อุปกรณ์ที่ใช่   

สำหรับการถ่ายทอดภาพอาหาร Jaegen ไว้ใจกล้อง Alpha7R III และเลือก Alpha 7S IIIในการถ่ายวิดีโอเรื่องราว เลนส์ตัวโปรดของเขาคือ FE 24-70mmF2.8 GM และ FE 16-35mm F2.8 GM สำหรับภาพถ่ายระยะใกล้ที่ละเอียดและคมชัด FE 90mm F2.8 Macro G OSS และ FE 90mm F2.8 Macro G OSS มักเป็นตัวเลือกของเขา

การเลือกอุปกรณ์ที่ใช่เป็นคำแนะนำอันดับต้นๆ ของการถ่ายภาพอาหาร เลนส์ที่มีคุณภาพดีนั้นยังจะต้องประกอบด้วยการจัดวางและอุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อเสริมคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอไปอีกระดับ การรวมองค์ประกอบของเลนส์ การจัดวาง และอุปกรณ์ในแบบที่ใช่ช่วยเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้แก่การถ่ายภาพ และเป็นกลไกสำคัญสำหรับ Jaegen และเชฟ Ryan ในการทำวิสัยทัศน์ของพวกเขาให้เป็นจริง

Alpha 7S III | FE 90mm F2.8 Macro G OSS | 1/100 | F5.6 | ISO 320
Alpha 7S III | FE 90mm F2.8 Macro G OSS | 1/100 | F2.8 | ISO 160

การถ่ายภาพยนตร์เป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทุกอย่างถ่ายทำด้วยค่าเฟรมเรตที่ 50 เพื่อให้มีตัวเลือกในการสร้างภาพในรูปแบบสโลว์โมชั่น โดยปกติ Jaegen ตั้งค่าความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/100 และค่ารูรับแสงที่กว้างขึ้นที่ 2.8 การผสมผสานนี้ทำให้ความลึกของพื้นผิวตื้นขึ้น และในขณะเดียวกันก็เปิดให้แสงสามารถเข้าถึงเลนส์ได้มากขึ้น เมื่อมีการตั้งค่าที่แม่นยำเช่นนี้ พร้อมกับการจัดแสงธรรมชาติที่เป็นสไตล์เฉพาะตัวของ Jaegen ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมหมายถึงภาพที่คมชัดและละเอียดยิ่งขึ้น

Alpha 7C | FE 24-70mm F2.8 GM | 60mm | 1/400 sec | F6.3 | ISO 320
Alpha 7C | FE 40mm F2.5 G | 1/640 | F2.5 | ISO 1000
Alpha 7C | FE 24-70mm F2.8 GM | 60mm | 1/400 sec | F6.3 | ISO 320

โปรเจคท์Juicy Cuts

เพื่อให้โปรเจคท์ Juicy Cuts สมบูรณ์ Jaegen ใช้กล้อง Alpha 7C ร่วมกับเลนส์ตัวเด่นทั้งสามตัวของ Sony อย่าง FE 24mm F2.8 G, FE 40mm F2.5 G และ FE 50mm F2.5 G หรือที่เรียกอีกชื่อว่าเลนส์ Compact G เลนส์เหล่านี้สามารถสับเปลี่ยนกันภายในได้ในระหว่างถ่ายทำภาพในแต่ละโมเม้นท์ที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับฟังก์ชั่นตามลำดับเพื่อดึงขีดความสามารถขั้นสูงสุดออกมา

Jaegen กล่าวว่า“ผมชอบใช้เลนส์ขนาด 40 mm เวลาถ่ายภาพผลิตภัณฑ์ เพราะว่านั่นช่วยสร้างความลึกให้กับพื้นผิว ภาพอาหารส่วนใหญ่ในซีรีส์วิดีโอก็จะอยู่ในระยะความยาวโฟกัสนั้น สำหรับเลนส์ขนาด 50 mm ผมใช้กับภาพพอร์เทรทเป็นส่วนใหญ่ เพราะให้ลุคที่คมชัดและละเอียดกว่า”

Alpha 7C | FE 40mm F2.5 G | 1/400 sec | F6.3 | ISO 320

เมื่อจับคู่กับกล้องฟูลเฟรมคอมแพ็ค Alpha 7CJaegen สามารถบันทึกภาพถ่ายคุณภาพสูงด้วยสีสันสดใสและรายละเอียดคมชัด พร้อมสนุกไปกับความคล่องตัวและการมีอิสระในระหว่างการถ่ายภาพ

Jaegen กล่าวว่าผมจะแนะนำเลนส์เหล่านี้ให้กับผู้ใช้งานที่อยากสัมผัสกับขีดความสามารถแบบคอมแพ็คที่ได้จากการใช้อุปกรณ์แบบผสมผสานของ Sony อุปกรณ์พวกนี้ช่วยเติมเต็ม Alpha 7C ซึ่งเป็นกล้องเฟรมขนาดเล็กที่ให้คุณภาพที่ดีที่สุดที่เลนส์ Compact G สามารถให้ได้ ผมเชื่อว่าการถ่ายภาพด้วยการเซ็ทอัพแบบคอมแพ็คนั้นเป็นอะไรที่กระตุ้นให้คุณเอากล้องออกมา แล้วก็ถ่ายต่อไปเรื่อยๆ เมื่อเปรียบเทียบกับการตั้งอุปกรณ์ครบชุดที่จำเป็นต้องใช้เวลา และเมื่อลองคิดถึงน้ำหนักกับความเหนื่อยที่เกิดขึ้นทั้งระหว่างและหลังการถ่ายภาพสินี่เป็นจุดสมดุลที่ดีมากสำหรับคนที่กำลังมองหางานอดิเรกและกำลังสนใจอยากถ่ายภาพดีๆ โดยที่ไม่ต้องเตรียมการเซ็ทอัพมากมาย”

Alpha 7C | FE 40mm F2.5 G | 1/640 | F2.5 | ISO 1000

Jaegen เชื่อเสมอว่าซีรีส์กล้อง Alpha นั้นเป็นกล้องที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมสมคำร่ำลือด้วยฟีเจอร์ที่เหนือชั้นซึ่งทำให้กล้องรุ่นนี้เป็นเพื่อนคู่ใจยามถ่ายรูปที่เชื่อถือได้และดีที่สุด เมื่อมีกล้องรุ่น Alpha เขาสามารถสลับไปมาระหว่างการถ่ายภาพกับการถ่ายวิดีโอได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งสามารถทำได้อย่างสะดวกโดยที่คุณภาพไม่สะดุด การที่เขาสามารถแบ่งปันงานสร้างสรรค์ได้ในทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ ทำให้เขาสามารถแสดงภาพอาหารที่หลากหลายได้อย่างสร้างสรรค์และเย้ายวน ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถกระตุ้นให้ผู้รับชมลิ้มลองอาหารที่แตกต่างหลากหลาย และช่วยส่งเสริมวัฒนธรรมเหล่านั้นไปในตัว

Alpha 7C | FE 40mm F2.5 G | 1/640 | F2.5 | ISO 1000

สำหรับ Jaegen การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นสิ่งที่ควรส่งเสริม การที่สามารถรับส่งความคิดและได้รับความเห็นกลับมาเดี๋ยวนั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามาก เมื่อมีอุปกรณ์ อุปกรณ์เสริม และทีมที่ใช่ การสร้างสรรค์พอร์ตฟอลิโอภาพถ่ายและวิดีโออาหารที่น่ากินเหมือนอย่างของ Jaegen นั้นก็ง่ายขึ้น ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ที่เป็นสื่อกลางจำเป็นต้องบอกเล่าเรื่องราว และบ่อยครั้งที่กระบวนการ ความหลงใหล และความเพียรพยายามปรากฏให้ทุกคนได้ประจักษ์

Article Theme
SonyAlphaUniverse

Kami ingin meminta akses ke Geolokasi Anda untuk memberi Anda pengalaman yang disesuaikan. Perlu diketahui bahwa Anda dapat menarik persetujuan Anda kapan saja melalui pengaturan browser Anda.